On Oct. 17, 2024
By workpointtoday
ช่วงนี้ไม่ว่าไปที่ไหนเราก็อาจจะได้ยินกิตติศัพท์ความใจฟูกันทั้งประเทศไปกับสองหนุ่ม ‘คัลแลนกับพี่จอง’ ที่นอกจากจะพาเราไปเที่ยวทั่วประเทศไทยในมุมน่ารักๆ แล้ว ก็ยังได้เห็นความพยายามเรียนรู้ภาษาไทย ที่ไม่ใช่ภาษาแม่ของพวกเขา ซึ่งทำเอารู้สึกเอ็นดูไปกับความน่ารัก ตลกโบ๊ะบ๊ะของทั้งคู่เสมอ
แต่หากย้อนกลับมาที่คนไทยด้วยกันเอง เมื่อมีคนไทยพยายามจะเรียนรู้ภาษาที่ไม่ใช่ภาษาแม่ หรือแม้แต่ภาษาที่สองอย่างภาษาอังกฤษก็ตาม เชื่อว่าหลายๆ คนน่าจะเคยเจอกับการเหยียดสำเนียง หรือบางทีก็ถูกจับผิดไวยากรณ์อยู่เสมอ ที่อาจทำให้บางคนกลัวการใช้ภาษาอังกฤษกันไปเลยทีเดียว
ซึ่งเรื่องนี้กำลังจะไม่ใช่เรื่องเล็กๆ เพราะสิ่งเหล่านี้กำลังสะท้อนผ่านความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษของเด็กไทยที่ไม่ว่าจะด้วยความรู้สึกหรือด้วยสถิติ ก็กำลังบอกกับเราว่าทักษะภาษาอังกฤษของเด็กไทยกำลังอยู่ในสถานการณ์ที่น่ากังวลไม่น้อย
ผลสำรวจเด็กไทยกับภาษาอังกฤษเรียกว่าเป็นประเด็นเสมอมากับทักษะภาษาอังกฤษของเด็กไทยที่กลายเป็นเรื่องให้พูดถึงได้ทุกปี และมีทีท่าจะแย่ลงเรื่อยๆ เสียด้วยซ้ำ
เพราะเมื่อย้อนกลับไปอย่างในปี ปี พ.ศ.2564 ทาง EF หรือ Education First ซึ่งเป็นสถาบันสอนภาษาที่ใหญ่ที่สุดในโลก ก็ออกมารายงานผลการสำรวจดัชนีความสามารถทางภาษาอังกฤษ (English Proficiency Index) ซึ่งผลสำรวจพบว่า ประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 74 จาก 100 ประเทศที่ไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาแม่ ซึ่งเข้าร่วมการทดสอบในปีดังกล่าว
หรือในปี พ.ศ. 2565 EF ก็ได้รายงานผลการสำรวจอีกครั้ง โดยสำรวจ 111 ประเทศทั่วโลกที่ไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาแม่ และผลการรายงานก็ออกมาบอกว่าประเทศไทยได้อันดับที่ 97 เรียกว่าเป็นอันดับท้ายๆ
ล่าสุดในปี พ.ศ. 2566 ผลสำรวจจาก EF ก็ได้เปิดผลรายงานว่า ประเทศไทยตกอันดับลงไปอยู่ที่อันดับ 101 จาก 113 ประเทศ มากไปกว่านั้นยังกลายเป็นประเทศที่รั้งอันดับสุดท้ายจาก 8 ประเทศอาเซียนอีกด้วย (ทั้งนี้ทาง EF ไม่ได้สำรวจประเทศบรูไนและลาว)
โดยปีล่าสุดที่เพิ่งรายงานไปนั้น ในรายงานได้บอกไว้ว่า ค่าเฉลี่ยของความสามารถทางภาษาอังกฤษทั่วโลกจะอยู่ที่ 502 คะแนน แต่ในประเทศไทยเองมีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 416 คะแนน ซึ่งถือว่าเอยู่ในเกณฑ์ “ต่ำมาก” (Very Low) ตามเกณฑ์วัดผลของ EF EPI Band ที่เทียบเท่าได้กับระดับ B1 ตามเกณฑ์การวัดผลของ CEFR (Common European Framework of Reference for Languages)
เมื่อโรงเรียนเน้นไวยากรณ์ จนลืมการสื่อสารเมื่องลองย้อนกลับไปสมัยเด็กๆ ในคาบเรียนภาษาอังกฤษ หลายๆ คนน่าจะเติบโตมากับการเรียนภาษาอังกฤษโดยการเปิดแบบเรียน และขมักเขม้นกับการท่องจำไวยากรณ์ให้ถูกต้อง น้อยครั้งนักที่จะได้พูดสนทนาออกมา มากไปกว่านั้นยังกลัวถูกจับผิดเวลาต้องพูดอยู่เสมอๆ
มีรายงานน่าสนใจชื่อ ปัญหาการเรียนการสอนภาษาอังกฤษในประเทศไทยและข้อเสนอแนะด้านยุทธศาสตร์การพัฒนาการเรียนการสอนภาษาอังกฤษ ปี 2564 – 2568 โดย ชัชรีย บุนนาค ซึ่งเป็นรายงานที่มาจากการประชุมวิชาการเสนอผลงานวิจัยระดับชาติ ครั้ง 2 ในปี พ.ศ. 2561 ได้เสนอปัญหาที่ทำให้เด็กไทยไม่เก่งภาษาอังกฤษไว้ นั่นก็คือเรื่องของการเรียนการสอนที่เน้นไวยากรณ์และท่องศัพท์มากเกินไป ทำให้สื่อสารไม่ได้ เพราะขาดการนำไปใช้จริง
ยิ่งไปกว่านั้นยังพบว่าครูสอนภาษาอังกฤษในระดับประถมศึกษากว่าร้อยละ 80 ไม่ได้จบวิชาเอกภาษาอังกฤษ และมีภาระการสอนอีกหลายวิชา ทำให้ไม่สามารถโฟกัสอย่างเต็มที่ อีกทั้งผลการประเมินความสามารถตนเองของครูสอนภาษาอังกฤษในสํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน พบว่าครูร้อยละ 51.91 มีความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษในระดับที่ต้องปรับปรุง
สร้างสภาพแวดล้อมให้เด็กกล้าพูดอังกฤษแบบใจฟูอีกประเด็นสำคัญที่อาจทำให้หลายๆ คนไม่กล้าพูดภาษาอังกฤษก็คือเรื่องของสภาพแวดล้อมที่จะช่วยเติมความมั่นใจให้กล้าพูดกล้าใช้ภาษาอังกฤษ ซึ่งในสังคมไทยเองอาจจะยังติดปัญหานี้ไม่น้อย
ด้าน พริษฐ์ วัชรสินธุ สส. บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล เคยได้เสนอแนะให้มีการรณรงค์ให้สังคมลดการให้ความสำคัญสำเนียง (Accent) เพราะการถูกจับจ้องว่าพูดผิด พูดไม่ดี สำเนียงไม่ได้ อาจสร้างความกลัว ทำให้เด็กหรือแม้แต่ผู้ใหญ่ไม่กล้าสื่อสารภาษาอังกฤษ เนื่องจากกลัวทำผิดพลาดและโดนเหยียดหยามได้
เมื่อมองกลับมายังกระแสของยูทูปเบอร์ชื่อดังอย่าง คัลแลนกับพี่จอง ในช่อง CullenHateberry ที่พยายามฝึกใช้ภาษาไทยด้วยไวยากรณ์และศัพท์ผิดๆ ถูกๆ แต่คนไทยก็รู้สึกเอ็นดูกับความน่ารักและความพยามยามของพวกเขาไม่น้อย
จึงชวนย้อนกลับมาที่การเรียนรู้ภาษาอังกฤษของเด็กไทย ที่คงจะดีไม่น้อยถ้าเราสามารถเปิดพื้นที่และให้โอกาสเด็กๆ ได้ลองผิดลองถูก สร้างพื้นที่ปลอดภัยให้พวกเขากล้าพูดกล้าสื่อสาร และเอ็นดูในความพยายามพูดภาษาอังกฤษซึ่งไม่ใช่ภาษาแม่ของพวกเขา
อ้างอิงมาจาก https://theactive.net